การทำงานกว่าจะเป็น Juicy
ชุดนี้ใช้เวลาทำประมาณ 6 เดือน นานมาก เจอปัญหาเยอะมาก เพราะเราพยายามจะให้มันได้ดีที่สุด พยายามหนีตัวเองจาก Mint ไม่อยากให้มันซ้ำกับของเดิม ก็เลยใช้เวลามาก เพลงแต่ละเพลงถึงจะมันขึ้น แต่ก็มีเอกลักษณ์ของมันเอง แต่ไม่หนักถึงขนาด IQ180 ตอนนี้กระแสเพลงหนักๆมันมาพอสมควร หลังจากที่เรารออยู่...ให้มันมา แต่เราก็ไม่ได้ไปตามนั้นเลยทั้งหมด
จะย้อนกลับไปเหมือน Candy Man ตรงความดุดันประมาณนั้น จะไม่ใช่เล่นๆแล้ว กับ Mint นี่เราจะเล่นๆหน่อย น่ารักกันไป ชุดนี้อยากจะเอาจริงซะหน่อย แล้วชุดหน้าอาจจะเล่นอีก จริงจังอีก สลับกันไป

ทำไมถึงไม่เล่นๆแล้ว
ที่ไม่อยากเล่นๆก็เพราะคอนเสิร์ตฮะ เวลาเล่นคอนเสิร์ตแล้วเพลงสนุก มันจะสนุกมาก มันมาก ก็เลยหยุดใจไม่ได้เวลาทำงาน ทำไปก็จะคิดถึงคอนเสิร์ตตลอดเวลา เฮ้ย!กลองลูกนี้คนจะต้องกระโดด

หมายความว่าคอนเสิร์ตชุด Mint ไม่ค่อยสนุก?
จริงๆเวลาคอนเสิร์ตเราจะเล่นเพลงทุกชุดที่ผ่านมา เล่นรวบมาตั้งแต่ IQ 180 เลย จะรวมกันหมด ตอนแรกเราลองเล่นเพลงของคนอื่นดูแล้วนะ เพราะเวลาขึ้นคอนเสิร์ตเขาก็มักจะมีเล่นเพลงของคนอื่นด้วย เราก็เอาเพลงของพี่ป้อม อัสนี มาเล่น เอาเพลงขายๆมา แต่คนเขาไม่ร้อง เราก็เลยต้องเล่นเพลงของตัวเองทุกชุด คนดูเขาก็จะเอาด้วยหมดเลย ส่วนชุดนี้เรามีเพลงใหม่ที่จะขึ้นคอนเสิร์ตด้วย 8 เพลง (จาก 10 เพลง) รวมกับเพลงเก่า ก็คงประมาณ 20 เพลง อาจจะตัดของเก่าออกนิดหนึ่ง โชว์อาจจะประมาณ 2 ชั่วโมง เพลงที่เราทำขึ้นเราจะดูจากคนดูด้วย เวลาขึ้นเพลงจังหวะอารมณ์อย่างนี้ คนจะโดดแน่ เวลาเล่นแล้วด ูอาการของคน ผู้ชายผู้หญิงเวลาอกหักเป็นยังไง คนกำลังอินกับอะไรอยู่ คำไหนที่เขาชอบ ชุดนี้เราจะเอาจากการ เล่นสดมารวมเป็นก้อน ดึงให้มันใหม่ขึ้นอีก ทำให้มันฟังยากขึ้น อุดมการณ์ของวงคือต้องการจะให้อะไร ใหม่ๆเสมอ ถึงแม้ว่าอาจจะเสี่ยงหน่อยนะ เพราะว่าชุดแรกที่ออกกับเบเกอรี่ก็เจ๊งกระจุย IQ180ก็เจ๊งกระจาย เพราะตอนนั้นเราบ้าไปหน่อย ลืมคิดไปว่ามันหนักเกินไป พอชุดนี้ก็เอาอีกแล้ว แต่ว่าไม่หนักขนาดนั้น อยากจะให้อะไรใหม่ๆกับคนฟังอีก เพราะว่าตอนนี้มันชักจะน่าเบื่ออีกแล้ว

ความต่างจากงานชุดก่อนๆ
ชุดนี้จะมันกว่า Mint จะมันกว่า Candy Man เพราะชุดนี้เราคิดถึงคอนเสิร์ตมากขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้น 60% ของเพลงในอัลบั้มเป็นเพลงมัน ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคอนเสิร์ต เอาใจคนที่ชอบร็อคจริงๆมากกว่าป๊อป แต่ก็มีความป๊อปอยู่เหมือนกัน แต่รวมๆจะเป็นร็อคมากขึ้น เพลงออกมาแข็งแรงไปทางอเมริกันขึ้น มากกว่าทางยุโรป แต่จะมีความเป็นยุโรปด้วยในสไตล์ของดนตรี เพราะเราชอบความสวยงามของยุโรป แต่เราจะเน้นจังหวะจะโคนมากขึ้น สไตล์การร้องในอัลบั้มนี้ผม(โต)พยายามจะเปลี่ยน อย่าง "บ้าบอ" เพลงนี้จะมีกลิ่นของ "จิ๊จ๊ะ" อยู่ด้วยนิดๆหน่อยๆ เพราะหลายคนชอบเหลือเกิน แต่วิธีการร้องเปลี่ยน ปกติวิธีการร้องของผมจะเป็นเมโลดี้อยู่แล้ว แต่ "บ้าบอ" ผมจะเล่นสวน ช่วงนี่ rap rock มาแรง แต่ผมก็ไม่ชอบแร็พอยู่ดี จะเล่นสวนโดยการใส่เมโลดี้เข้าไปด้วย แรกๆอาจฟังแปลกหูบ้าง เพลงนี้ตอนแรกแต่งเป็นภาษาอังกฤษก่อน ทีนี้พอเปลี่ยนเป็นภาษาไทยก็อาจจะ ติดดิบๆหน่อย สิ่งที่เปลี่ยนในการร้อง คือ จะมีการร้องที่เป็นสัดเป็นส่วนขึ้น ชุดนี้การร้องจะไม่ยากเท่าไหร่ ขรึมขึ้น ดุขึ้นหน่อย เนื้อร้องก็ดุขึ้นเหมือนกันนอกจากนี้ การเรียบเรียงในชุดนี้เราไม่ได้ใช้สูตรปกติในการเรียบเรียงเพลงแบบ อย่าง "ผิดที่ไว้ใจ" จะเรียบเรียงแปลกๆ ต้องลองฟังดู

เพลงในอัลบั้มส่วนใหญ่ไปทางไหน
เพลงส่วนใหญ่เป็นเรื่องความผิดหวังเกี่ยวกับความรัก มีเพลงน่ารักอยู่หนึ่งเพลง คือ "ขี้หึง" ผม(โต) ว่าน่ารักที่สุดในอัลบั้มนี้ น่ารักกว่า "เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก" ในอัลบั้มที่แล้วอีก นอกนั้นเป็นเพลงด้าน เนกาทีฟของความรักหมดเลย แต่แยกอยู่ในหลายๆมุม และอยู่ในเพลงที่ค่อนข้างสนุกสนานหมดเลย จึงทำให้เนื้อร้องอาจจะดูไม่หนักนัก แต่จริงๆเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนัก
ส่วนซาวด์ชุดนี้ดีกว่า ชุดที่แล้วเยอะมาก เพราะ source มันดีกว่าเยอะ อุปกรณ์ชุดนี้เจ๋งกว่าชุดที่แล้ว แพงกว่าเดิมมาก อย่างกลองชุดที่แล้วอาจะสามหมื่น แต่ชุดนี้เป็นแสน เป็นเครื่องดนตรีที่มาจากเราเก็บตังค์ซื้อ เราไม่ได้ติดหรูนะฮะ แต่ด้วยคุณภาพเนื้อเสียง เราเลยกรีดเลือดกรีดเนื้อมาซื้อ ส่วนเรื่องอิเล็คโทรนิก ชุดนี้เราลดน้อยกว่าชุดที่แล้ว เป็น feel วงเล่นมากกว่า ชุดที่แล้วมี loop มีเสียงประหลาดเยอะมาก แต่ชุดนี้มีน้อยกว่าเดิม จะหนักไปทางกลองกับกีต้าร์มากๆ

มีเพลงไหนภูมิใจเสนอเป็นพิเศษ
อยากให้ฟังทั้งม้วนนะครับ เพราะถ้าเพลงหนึ่งที่เราทำไม่ดีพอ เราสามารถเลื่อนการออกเทปไปหนึ่งปี เพื่อเพลงนี้เพลงเดียวเราก็จะทำ ถ้าเราคิดว่าเพลงไหนไม่เหมาะที่จะอยู่ในอัลบั้ม เราก็จะไม่ทำ เพราะฉะนั้น เราอยากให้ฟังทั้งชุด ส่วนตัวที่ผม(โต)ชอบมากที่สุดในอัลบั้ม เป็นเพลงที่ตรงกับผมมากคือเพลง "ผิดที่ไว้ใจ" คิดว่าเป็นเพลงที่เศร้าที่สุดที่ผมเคยเขียนมาในชีวิตนี้เลย ทำอาชีพนี้มานาน เพลงนี้น่าจะเศร้าที่สุด ก็เลยอยาก ให้ลองฟังดู มันมีความหมายอยู่ในทุกคำพูด ดนตรีจะไปทางยุโรปหน่อย ไม่ใช่ rock ballad หรือ Heavy Metal เป็นกีต้าร์บวกขึ้นมาก่อน ค่อยๆสร้างตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
ส่วนเพลงที่สนุกและมันที่สุด คือ "น้ำนิ่งไหลลึก" เพลงนี้เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับความรักเลย ปกติจะเขียนเรื่อง เกี่ยวกับความรัก เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจกันง่าย เพลงนี้แรงมาก แรงที่สุดในอัลบั้ม ผมว่าน่าสนใจมาก มันเป็น อารมณ์ที่บางทีเราเริ่มโกรธใครคนหนึ่ง จะนิ่งๆก่อนที่จะระเบิดออกมา ถ้าระเบิดก็คือตูมเลย อันตรายมาก เหมือนเวลาน้ำนิ่งอย่าไปเล่นกับมันมากเพราะมันอันตราย เพลงนี้ดนตรีมันมาก เนื้อร้องผมว่ามันน่าจะโดนใจ พลเรือนชาวไทยมาก ติดดินมากครับผม

เพลงอื่นๆที่อยากพูดถึงล่ะ
เพลงช้าอีกเพลงในอัลบั้มชื่อว่า "แกล้ง" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอกหัก แต่ยังยอมรับไม่ได้กับการที่ถูกทิ้งไป เพราะฉะนั้นช่วยแกล้งบอกรักหน่อยได้มั้ย ทุกอย่างช่วยแกล้งทำหน่อย ช่วยโกหกหน่อย เพราะยังไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ชุดนี้มีเพลงช้า 4 เพลง เป็นเพลงช้าที่ค่อนข้างฟังยากหน่อย เพราะดนตรีมันค่อนข้างจะยาก สัดส่วนมันจะประหลาดหน่อย
แล้วก็มีเพลง "วัดใจ" เป็นเพลงที่ทำมาเพื่อให้คนนึกถึงชุด Mint หน่อย ก็จะเอาเพลง "บั้นท้าย" "จิ๊จ๊ะ" และ "150 cc." มารวมกันเป็นก้อน อันนี้คือส่วนของดนตรี เพราะว่าชุด Mint เราเล่นคอนเสิร์ตกันมาประมาณ 1 ปี กับ 6 เดือน ทุกครั้งที่เล่นเพลงนี้คือจะสนุกเหลือเกิน คนจะกระโดดกันมาก เราก็เลยเอามารวมกัน แต่ว่าตัวเนื้อเพลงจะเกี่ยวกับปลุกใจให้คนทะเยอทะยานที่จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุด คือถ้าใจมันได้จะไปสูงแค่ไหนมันก็ได้ จะต้องมีเพลงแนวนี้ในทุกชุดของเรา อย่างเพลง "ฝัน" ให้แฟนเพลงของเราอย่าท้อ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร
เพลง "เหงา" เป็นเพลงช้าอีกเพลง ฟังแล้วจะเหงา หงอยไปเลย ได้แรงบันดาลใจมาจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมบังเอิญได้รู้จัก เขาเป็นคนมีชื่อเสียงมาก แต่เขาเป็นคนที่เหงามาก บางอารมณ์ผมก็จะเป็นเหมือนกัน แต่ของเขาจะแรงมาก เลยเขียนถึงผู้หญิงคนนี้ แล้วใช้คำว่าเหงาแทนชื่อของเขา เขามีทุกอย่าง แต่เหงาตลอดมา เป็นเพลงสุดท้ายที่เขียนในอัลบั้มนี้ เป็นเพลงที่ฟังเรื่อยๆ แต่ดนตรีจะจัดมาก กลองจัดๆ
เพลงที่โดดขึ้นมาอีกเพลง คือ "ขี้หึง"ต้องลองไปฟังในอัลบั้มเอง ชุดนี้เราพยายามฉีกจากที่สิ่งเราทำ เพราะมันชักจะเบื่อตัวเองด้วย เราต้องการจะให้อะไรที่ใหม่กับคนฟังและกับตัวเราเองด้วย